Ethereum เกิดขึ้นในปี 2015 โดย Vitalik Buterin ซึ่งเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์และนักเขียนบทความในด้านสกุลเงินดิจิตอล และในระหว่างการทำงานกับ Bitcoin Magazine ในปี 2013 เขาได้คิดค้นและสร้างต้นแบบของ Ethereum และต่อมาในปี 2014 ได้เริ่มเขียนโค้ดและเริ่มแบ่งปันไอเดียดังกล่าวในชุมชนสกุลเงินดิจิตอล

ในท้ายสุดของปี 2014 มีการเริ่มก่อตั้งบริษัท Ethereum Switzerland GmbH และเปิดตัว ICO (Initial Coin Offering) เพื่อระดมทุนสำหรับการพัฒนา Ethereum โดยให้นักลงทุนที่สนใจสามารถซื้อ ETH ในรูปของโทเค็น (token) จากนั้น Ethereum ได้ถูกเปิดตัวแบบอย่างเปิดเผยในวันที่ 30 กรกฎาคม 2015 ทำให้ Ethereum เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและส่งผลให้เกิดการพัฒนาและการนำไปใช้งานในโลกของสกุลเงินดิจิตอลมากมายในภายหลัง

ความเป็นเอกลักษณ์ของ Ethereum นั้นอยู่ที่ความแตกต่างและความเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ Ethereum มีความสำคัญและน่าสนใจในโลกของสกุลเงินดิจิตอล นี่คือคุณสมบัติที่นำมาเป็นเอกลักษณ์ของ Ethereum:

1. สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts): Ethereum เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้างและเปิดใช้งานสัญญาอัจฉริยะที่ทำให้สามารถรันโปรแกรมต่างๆ ได้บนบล็อกเชนของ Ethereum โดยไม่ต้องมีกลุ่มบริษัทหรือหน่วยงานใดๆ เป็นตัวกลาง สัญญาอัจฉริยะทำให้เกิดโอกาสในการสร้างและปรับปรุงแอปพลิเคชันที่มีระบบการทำงานที่เป็นอิสระและโปรแกรมอัจฉริยะซึ่งในที่นี้คือ Smart Contracts

2. ความเปิดกว้างและทำให้ใครก็สามารถเข้าร่วม: Ethereum เปิดโอกาสให้คนทั่วไปสร้างบัญชีและเข้าร่วมเครือข่ายได้โดยไม่ต้องมีความรู้ในด้านเทคนิคหรือการทำธุรกรรมเงินดิจิตอลมาก่อน นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน DApps ที่สร้างขึ้นบน Ethereum ได้โดยง่าย

3. ความรวดเร็วและความยืดหยุ่น: Ethereum มีเวลาบล็อกเชนที่รวดเร็วและสามารถปรับปรุงการทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนและปรับปรุงให้ทันสถานะปัจจุบันของเทคโนโลยี

4. โทเค็น (Tokens) และ ICO: นอกจากเหรียญ ETH แล้วยังมีโทเค็น (Tokens) ที่ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum เพื่อให้สะดวกในการใช้งานหรือเป็นส่วนหนึ่งในโครงการต่างๆ นอกจากนี้ยังเปิดตัว ICO ครั้งแรกของโลกในปี 2014 เป็นแนวทางที่ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนในโครงการต่างๆ โดยซื้อ ETH และรับโทเค็นของโครงการนั้นๆ

5. โลกของ DeFi (Decentralized Finance): Ethereum เปิดโอกาสให้ท่านใช้งานและทำธุรกรรมในโลกของ DeFi ซึ่งเป็นระบบการเงินดิจิตอลที่ไม่ต้องผ่านบริษัทหรือหน่วยงานใดๆ เพื่อทำธุรกรรมการกู้ยืมเงิน การฝากเงิน การทำสกุลเงินดิจิตอล (stablecoins) และอื่นๆ ทำให้ Ethereum เป็นสกุลเงินที่สำคัญในโลกของ DeFi และการเปิดโอกาสในการพัฒนาและนำไปใช้งานในโลกของสกุลเงินดิจิตอล

Ethereum มีมูลค่าสูงขึ้นเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ที่ได้ส่งผลกระทบให้มีความนิยมและความเชื่อมั่นในโครงการนี้เพิ่มขึ้น นี่คือสาเหตุที่ทำให้มูลค่าของ Ethereum สูงขึ้น:

1. ความสำคัญของสัญญาอัจฉริยะ: Ethereum เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้างและเปิดใช้งานสัญญาอัจฉริยะที่ทำให้เกิดโอกาสในการสร้างและปรับปรุงแอปพลิเคชันที่มีระบบการทำงานที่เป็นอิสระและโปรแกรมอัจฉริยะ การมีการพัฒนาและใช้งานของสัญญาอัจฉริยะนี้ทำให้ Ethereum มีความสำคัญในโลกของ DeFi (Decentralized Finance) และ DApps (Decentralized Applications) ซึ่งเป็นตัวโน้มถ่วงที่ส่งผลให้มูลค่าของ Ethereum เพิ่มขึ้น

2. การเปิดตัว ICO และโทเค็น: Ethereum ได้เปิดตัวการระดมทุนผ่าน ICO ครั้งแรกของโลกในปี 2014 ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนในโครงการต่างๆ โดยซื้อ ETH และรับโทเค็นของโครงการนั้นๆ การระดมทุนผ่าน ICO และการใช้โทเค็นในโครงการต่างๆ ทำให้ความต้องการใน ETH เพิ่มขึ้น

3. DeFi และ NFTs: การเปิดโอกาสในการใช้งานและทำธุรกรรมในโลกของ DeFi (Decentralized Finance) และ NFTs (Non-Fungible Tokens) ทำให้มีความต้องการใน ETH เพิ่มขึ้น ใน DeFi นักลงทุนสามารถกู้ยืมเงิน ฝากเงิน และเปลี่ยนเงินระหว่างสกุลเงินดิจิตอลได้ ส่วน NFTs เป็นโทเค็นที่ไม่ซ้ำกันซึ่งใช้เก็บข้อมูลของสิ่งของดิจิตอลที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ทั้งสอดคล้องกับศิลปะ สินค้าในเกม และอื่นๆ การใช้งานของ DeFi และ NFTs ทำให้มีความต้องการใน ETH เพิ่มขึ้น

4. ความเชื่อมั่นในโครงการ: ขณะที่ Ethereum เป็นโครงการที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์การให้บริการที่ยาวนาน ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักพัฒนาต่อต้านความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการล้มเหลวของโครงการ อีกทั้งมีการพัฒนาและอัปเดตเทคโนโลยีของ Ethereum อย่างต่อเนื่องทำให้มีความเชื่อมั่นในความยั่งยืนและความสามารถในอนาคตของโครงการนี้

ส่วนการมีมูลค่าสูงขึ้นของ Ethereum นอกจากสาเหตุดังกล่าวแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงในข้อกำหนดของนโยบายเงินตราดิจิตอลและสภาวะทางเศรษฐกิจของโลกที่ส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินดิจิตอลที่สำคัญอื่นๆ ในตลาดเติบโตขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจ

การขุด Ethereum เป็นกระบวนการในการตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมในเครือข่าย Ethereum และเพิ่มบล็อกใหม่เข้าไปในบล็อกเชนของ Ethereum ซึ่งจะเป็นกระบวนการทำให้ผู้ที่เข้าร่วมขุดมีโอกาสได้รับเหรียญ ETH เป็นตัวรางวัล กระบวนการนี้ใช้วิธีการ Proof-of-Work (PoW) ในการตรวจสอบและยืนยันธุรกรรม นี่คือขั้นตอนการขุด Ethereum:

1. ติดตั้งซอฟต์แวร์: ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการขุด Ethereum คุณต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เครือข่าย Ethereum อย่าง Geth (Go-Ethereum) หรือ Parity ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จำเป็นในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Ethereum

2. เลือกกระเป๋าเก็บเหรียญ: คุณต้องสร้างกระเป๋าเก็บเหรียญ (Wallet) เพื่อเก็บ ETH ที่คุณขุดได้ คุณสามารถเลือกใช้กระเป๋าเก็บเหรียญภายในเครือข่าย Ethereum หรือกระเป๋าเก็บเหรียญนอกเครือข่าย เช่น MyEtherWallet, MetaMask, Ledger Nano S, Trezor ฯลฯ

3. เข้าร่วมเหรียญสำหรับการขุด: คุณสามารถเข้าร่วมเหรียญ (Mining Pool) หรือขุดเอง (Solo Mining) การเข้าร่วมเหรียญจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับรางวัลของการขุดเหรียญแต่ละครั้ง ในกรณีที่คุณขุดด้วยตนเอง คุณต้องตั้งค่าซอฟต์แวร์ขุดและตั้งค่าการเชื่อมต่อเครือข่าย

4. เริ่มขุด: เมื่อคุณได้ติดตั้งซอฟต์แวร์เครือข่าย Ethereum และเลือกกระเป๋าเก็บเหรียญแล้ว คุณสามารถเริ่มกระบวนการขุดได้โดยเปิดซอฟต์แวร์ขุดและเข้าร่วมเหรียญ

5. ยืนยันธุรกรรมและขุดบล็อก: คุณจะต้องทำการตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมที่เกิดขึ้นในเครือข่าย Ethereum และต่อมาขุดบล็อกใหม่เพิ่มเข้าไปในบล็อกเชน การขุดคือการคำนวณให้ได้ค่านั้นๆ และคนที่คำนวณเสร็จก่อนก็จะได้รับเหรียญ ETH เป็นตัวรางวัล

ควรระวังว่าการขุด Ethereum ในปัจจุบันอาจไม่คุ้มค่าเหมือนในอดีต เนื่องจากความยากของการขุดที่สูงขึ้นและค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น หากคุณต้องการเข้าร่วมขุด Ethereum ควรศึกษาและคำนึงถึงความเป็นไปได้และความสามารถในการทำกำไรก่อนเสมอ