Tether (USDT) เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2014 โดยบริษัท Tether Limited ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีฐานะทางการเงิน จากนั้น USDT ได้เริ่มเปิดตัวในเวอร์ชันของเครือข่ายต่างๆ เช่น เครือข่าย Bitcoin (Omni Protocol) และเครือข่าย Ethereum (ERC-20) แต่ยอดขายและการใช้งานที่แพร่หลายของ USDT นั้นเกิดขึ้นหลังจากนั้นในปีต่อไป ทำให้เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิตอลที่สำคัญและนิยมในวงกว้างในโลกของสกุลเงินดิจิตอล

ความเป็นเอกลักษณ์ของ Tether (USDT) มีดังนี้:

1. Stablecoin: Tether (USDT) เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่เชื่อมโยงกับสกุลเงินด้านเงินเดือนที่มีความเสถียร ซึ่งหมายความว่ามีอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ 1 USDT เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันของ USDT ที่เชื่อมโยงกับสกุลเงินอื่น ๆ เช่น ยูโร (EUR), ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP), และยูวาน (JPY) เป็นต้น

2. ความนิยมและความเสถียร: Tether (USDT) เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างกว้างขวางในโลกของสกุลเงินดิจิตอล มีการใช้งานที่กว้างขวางในตลาดและในกิจกรรมการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลต่าง ๆ นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้ในโลกของ DeFi (Decentralized Finance) และในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในโลกของสกุลเงินดิจิตอล

3. แพลตฟอร์มที่รองรับ: Tether (USDT) มีโครงสร้างที่รองรับในหลายแพลตฟอร์ม รวมถึงเครือข่าย Bitcoin (Omni Protocol) และเครือข่าย Ethereum (ERC-20) ทำให้สามารถใช้งาน USDT ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ และในการทำธุรกรรมที่ตรงไปตรงมากับสกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ

4. การเลือกใช้ในการซื้อขาย: Tether (USDT) เป็นเหรียญที่ใช้เป็นตัวกลางในการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล นักลงทุนสามารถใช้ USDT เพื่อซื้อและขายสกุลเงินดิจิตอลต่าง ๆ ในแพลตฟอร์มการซื้อขายต่าง ๆ

5. ความ透เTransparent and Audited: บริษัท Tether Limited ได้มีการเผยแพร่รายงานการตรวจสอบจากบริษัทตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันว่าจำนวน USDT ในตลาดสอดคล้องกับสกุลเงินที่รักษาความเสถียร นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถือครอง USDT และการทำธุรกรรมที่สามารถติดตามได้ในบล็อกเชน

6. ความสะดวกสบายในการใช้งาน: Tether (USDT) เปิดให้บริการในหลายแพลตฟอร์มและถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในโลกของสกุลเงินดิจิตอล ความสะดวกในการใช้งานและความเสถียรทำให้ USDT เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้สกุลเงินดิจิตอล

อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าการใช้งานสกุลเงินดิจิตอลต้องให้ความสำคัญในการศึกษาและการทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อจำกัดและความเสี่ยงในการใช้งานในเชิงเสียค่าธรรมเนียม และความเปลี่ยนแปลงของตลาดสกุลเงินดิจิตอลในช่วงเวลาต่าง ๆ นักลงทุนควรให้ความสำคัญในการทำความเข้าใจเกี่ย

Tether (USDT) ทำงานโดยเชื่อมโยงกับสกุลเงินด้านเงินเดือนในอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ 1:1 หมายความว่า 1 USDT เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) หรือสกุลเงินด้านเงินเดือนอื่น ๆ ที่ระบุ โดยหลักการทำงานของ USDT มีดังนี้:

1. จำนวน USDT ที่มีอยู่: บริษัท Tether Limited คือผู้ดำเนินการและออก USDT ซึ่งต้องมีสกุลเงินในรูปของเงินเดือนที่สำหรับการเปิดตัว USDT ดังนั้น จำนวน USDT ที่มีอยู่เท่ากับจำนวนสกุลเงินดิจิตอลที่รักษาความเสถียรที่ธนาคารหรือบัญชีในอัตราแลกเปลี่ยนที่เท่ากัน

2. บล็อกเชน: ในแต่ละเครือข่ายที่รองรับ USDT (เช่น Bitcoin Omni Protocol หรือ Ethereum ERC-20), การทำธุรกรรมของ USDT จะถูกบันทึกไว้ในระบบบล็อกเชนของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ทำให้ทุกคนสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมและยืนยันยอด USDT ที่อยู่ในการกระจาย

3. ความสำคัญในการตรวจสอบ: บริษัท Tether Limited ได้มีการเผยแพร่รายงานการตรวจสอบที่มาจากบริษัทตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันว่าจำนวน USDT ที่มีอยู่ในตลาดสอดคล้องกับสกุลเงินที่รักษาความเสถียร รายงานการตรวจสอบที่มีความ透เTransparent and Audited ยืนยันความถูกต้องของจำนวนสกุลเงินดิจิตอลที่ออกมา

4. การรับรองเหรียญ: USDT ที่ออกมาในแต่ละแพลตฟอร์ม (เช่น Omni, Ethereum) จำเป็นต้องได้รับการรับรองจาก Tether Limited เพื่อให้รับรองว่า USDT ถูกสร้างขึ้นในอัตราแลกเปลี่ยน 1:1 กับสกุลเงินด้านเงินเดือนที่กำหนด

เป็นที่รู้จักกันดีว่า Tether (USDT) เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่มีความสำคัญในโลกของสกุลเงินดิจิตอล การทำงานที่มีความเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิตอลนี้ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายและใช้งาน USDT ในหลายรูปแบบในตลาดสกุลเงินดิจิตอล นอกจากนี้ยังมีการใช้งานใน

BNB (Binance Coin) เป็นสกุลเงินที่มีโครงสร้างบล็อกเชนแบบ Binance Smart Chain (BSC) ซึ่งใช้วิธีการ Proof-of-Staked-Authority (PoSA) ในการขุดบล็อก ในกระบวนการขุด BNB ผู้ขุดทำหน้าที่ตรวจสอบและบันทึกธุรกรรมในบล็อกใหม่ ๆ และได้รับรางวัล BNB ในการแข่งขันกับกันในการเพิ่มบล็อกใหม่เข้าสู่เครือข่าย นี่คือขั้นตอนวิธีการขุด BNB:

1. ตรวจสอบการเปิดใช้งาน Binance Smart Chain (BSC): ก่อนที่คุณจะขุด BNB คุณต้องตรวจสอบว่าคุณได้เปิดใช้งาน Binance Smart Chain (BSC) บนกระเป๋าเงินที่คุณใช้ การเปิดใช้งาน BSC อาจต้องใช้เวลาสักครู่ในการตรวจสอบการเปิดใช้งาน

2. เลือกโหนดขุด: หากคุณต้องการที่จะขุด BNB คุณต้องเลือกโหนดขุดที่เป็น PoSA และเชื่อมต่อกับ Binance Smart Chain (BSC) มีโหนดตั้งอยู่หลายรายที่สามารถเลือกใช้ คุณสามารถเลือกใช้โหนดขุดที่ให้ความเร็วของการขุดสูงและมีความน่าเชื่อถือ

3. ส่งธุรกรรม: เมื่อคุณได้เลือกโหนดขุดแล้ว คุณสามารถเริ่มส่งธุรกรรมในระบบ BSC ซึ่งอาจเป็นการส่งเหรียญ BNB หรือการทำธุรกรรมอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสถานะของแพลตฟอร์ม

4. รับรางวัล: เมื่อโหนดขุดได้รับธุรกรรมของคุณและบันทึกลงในบล็อกใหม่ โหนดนั้นจะได้รับรางวัล BNB เป็นเป็นการตอบแทนในการขุดบล็อกและรับรองธุรกรรมที่เกิดขึ้นในบล็อกนั้น

ควรจำไว้ว่าการขุด BNB ในระบบ Binance Smart Chain (BSC) ใช้วิธีการ PoSA และไม่ใช้วิธีการ Proof-of-Work (PoW) ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ในการขุดบล็อกในบล็อกเชนของ Bitcoin และ Ethereum การขุดใน BSC นั้นไม่ต้องใช้ความหนักของการคำนวณคำตอบของคอมพิวเตอร์เหมือนกับการขุดใน PoW ทำให้การขุดใน BSC นั้นสามารถทำได้ง่ายและอย่างรวดเร็วกว่า PoW และนิยมใน DApps และ DeFi ใน Binance Smart Chain